เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ จัดเป็นราชาแห่งสมุนไพรจีนที่มีการใช้มานานกว่า 4,000 ปี เป็นยาอายุวัฒนะและรักษาโรคต่าง ๆ ในเภสัชตำรับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย
บรรเทาอาการอ่อนเพลีย แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
รักษาโรคหัวใจ และช่วยให้นอนหลับ
มีรายงานการศึกษาทางคลินิกพบว่า เห็ดหลินจือ มีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ในผู้ป่วยมะเร็งปอด, ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ และผู้ป่วยมะเร็งขั้นลุกลาม
มีฤทธิ์ต้านอาการปวดและมีความปลอดภัยในการใช้กับผู้ป่วยโรค rheumatoid arthritis
รักษาโรค neurasthenia โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอาการปวดหลังจากการติดเชื้องูสวัด
สารสำคัญในเห็ดหลินจือ
- สารกลุ่ม polysaccharides
- สารกลุ่ม triterpenoids
- สารกลุ่ม sterols
- สารกลุ่ม fatty acids
- สารกลุ่มโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน
- แร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม, เซเลเนียม, ธาตุเหล็ก, สังกะสี และ ทองแดง
- สารโมเลกุลชีวภาพที่สำคัญ อย่าง สเตียรอยด์ (Steroids), ฟีนอล (Phenols), นิวคลีโอไทด์ (Nucleotides) และไ กลโคโปรตีน (Glycoproteins)
- สารอนุพันธ์อื่น ๆ โดยเฉพาะ กรดอะมิโนไลซีน (Lysine) และ ลิวซีน (Leucine)
ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ เห็ดหลินจือ
- ฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- ฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammation)
- ฤทธิ์ต้านเนื้องอกและมะเร็ง
- ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
สารออกฤทธิ์สำคัญในเห็ดหลินจือ
- เจอมาเนียม จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายของเราดีขึ้น ช่วยในการบำรุงประสาทสมอง หัวใจ และกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ให้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
- นิวคลีโอไทด์ ( Triterpenoids ) ช่วยในการออกฤทธิ์บรรเทาความเจ็บปวด ป้องกันการแข็งตัวของลิ่มเลือดในเส้นเลือดแดง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคอัมพฤกษ์อัมพาต และยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัสได้อีกด้วย
- ไตรเทอร์พีน ช่วยกำจัดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและสามารถป้องกันเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลามใหญ่โต อีกทั้งยังป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความดันโลหิต ลดไขมันในร่างกาย ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงได้ในทุกๆส่วน
- โพลีแซคคาไรด์ ( Polysaccharides ) มีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
ของร่างกาย ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งยับยั้งเนื้องอก อีกทั้งยังลดน้ำตาลในเลือดและลดอาการอักเสบ ช่วยให้บาดแผลหายไวขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม - แร่ธาตุบางชนิด เช่น ฟอสฟอรัส, สังกะสี, แมกนีเซียม, ทองแดง, แคลเซียม, เซเลเนียม, โพแทสเซียม และ ธาตุเหล็ก
ข้อควรระวังและการรับประทานเห็ดหลินจืออย่างปลอดภัย
- การรับประทานสารสกัดเห็ดหลินจือขนาด 2-10 กรัม/วัน ร่วมกับวิตามินซีขนาด 6-12 กรัม/วัน จะทำให้ถ่ายอุจจาระเหลว
- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน ทั้งนี้เพราะเห็ดหลินจือมีฤทธิ์เพิ่มภูมิต้านทาน
- ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับประทานยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด เช่น ยา aspirin หรือยา warfarin ทั้งนี้เพราะเห็ดหลินจือมีฤทธิ์เสริมยาดังกล่าว
- สารสกัดน้ำเห็ดหลินจือมีฤทธิ์เสริมยาต้านจุลชีพ cefazolin ต่อเชื้อ Klebsiella oxytoca ATCC 8724, Bacillus subtilis ATCC 6603,Staphylococcus aureus ATCC 25923, Escherichia coli ATCC 25933 และ Salmonella typhi ATCC 6509
ผลข้างเคียงจากการรับประทานเห็ดหลินจือ
1. การรับประทานเห็ดหลินจือไม่พบการก่อการแพ้ แต่สปอร์ของเห็ดอาจจะทำให้แพ้ได้เช่นเดียวกับสปอร์ของเห็ดราในอากาศ มีรายงานพบว่าผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะแพ้สปอร์มากกว่าดอกเห็ด
2. สารสกัดเห็ดหลินจือขนาด 1.5-9 กรัม/วัน ไม่พบผลข้างเคียงอย่างรุนแรง แต่อาจจะพบว่ามีอาการง่วงนอน กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย เหงื่อออก อุจจาระเหลว หรือมีผื่นแพ้
เอกสารอ้างอิง
- เห็ดหลินจือจากงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ รองศาสตราจารย์ ดร. นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ ภาควิชาเภสัชวินิจฉัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- Benzie IFF, Wachtel-Galor S, editors. Herbal Medicine: Biomolecular and Clinical Aspects. 2nd edition. Boca Raton (FL): CRC Press/Taylor & Francis; 2011. https://www.mundoreishi.com/en/blog-en/422-contraindications-of-the-reishi
- Figlus D, Curvetto N. Medicinal mushroom reishi (Ganoderma lucidum) main toxicity and allergenicity studies. dosage, posology and side effects.
